วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

Questtionnaire2

LinkFinal2

FinalDetail2

การใช้รถโดยสาร ขส.ร้อยเอ็ด
บริษัท สหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการรถโดยสารปรับอากาศประจำทาง เส้นทาง กรุงเทพ-ร้อยเอ็ด และ กรุงเทพ-มุกดาหาร ซึ่งได้รับสัมปทานจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด เพื่อขยายการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ในปี พ.ศ. 2549 ได้ซื้อรถโดยสารจาก บริษัท ธเนตรร้อยเอ็ดทัวร์ จำกัด มาบริหารเพิ่มเติม ปัจจุบันมีรถโดยสารให้บริการในเส้นทางดังกล่าวทั้งสิ้น 46 คัน แบ่งเป็นเส้นทางกรุงเทพ-ร้อยเอ็ด จำนวน 28 คัน และ เส้นทางกรุงเทพ-มุกดาหาร จำนวน 18 คัน ในจำนวนดังกล่าวมี บริการรถโดยสารปรับอากาศด่วน 32 ที่นั่ง จำนวน 6 คัน และ รถโดยสารปรับอากาศด่วน 36 ที่นั่ง จำนวน 40 คัน ในปี พ.ศ. 2550 บริษัทได้เพิ่มบริการรถโดยสารปรับอากาศสองชั้น จำนวน 4 คัน ในเส้นทางกรุงเทพ- ร้อยเอ็ด และ กรุงเทพ มุกดาหารในปี พ.ศ. 2552 บริษัทได้เพิ่มบริการรถโดยสารปรับอากาศสองชั้น จำนวน 2 คัน ในเส้นทางกรุงเทพ- ร้อยเอ็ด และมีโครงการที่จะปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารในปัจจุบันให้เป็นรถโดยสารปรับ อากาศสองชั้นอย่างต่อเนื่อง
คู่มือในการเดินทาง
1.  ควรมาถึงสถานีก่อนที่รถจะออก 15 นาที เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินระหว่างทาง
2.  ควรแยกสิ่งของสำคัญ หรือจำเป็นในการเดินทาง เช่น ยาประจำตัว ของมีค่าไว้กับกระเป๋าที่นำติดตัวขึ้นรถ ไม่ควรที่จะนำไป
ไว้ใต้ท้องรถเพราอาจเกิดกรณีสูญหายได้
3.  สิ่งของที่นำขึ้นชั้นเก็บของเหนือศีรษะ ไม่ควรเป็นของที่มีน้ำหนักมาก เพราะสิ่งของเหล่านั้นอาจหล่นลงสู่ศีรษะของผู้โดยสาร
ทำให้เกิดอันตรายได้
4.  ไม่ควรใช้และตั้งเสียงรับโทรศัพท์มือถือที่มีความดัง จนเกิดความรำคาญต่อผู้โดยสารท่านอื่น ควรเปิดระบบสั่นจะดีกว่า
6.  ควรศึกษาเส้นทางการเดินทางจากแผนที่ก่อนการเดินทาง เพราะจะทำให้คาดหมายสถานที่และเวลาที่ใช้ในการเดินทางถึงที่หมายได้
7.  ควรสวมเสื้อผ้าที่สบายตัว และควรมีเสื้อกันหนาวไปด้วยในการเดินทางทุกเครั้ง
8.  ขอความกรุณา อย่านำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ขึ้นมาดื่มบนรถ รวมทั้งของที่มีกลิ่นฉุนหรือมีกลิ่นรุนแรง
เช่น ทุเรียน ปลาร้า
9.  ห้ามสูบบุหรี่ บนรถโดยสาร
คู่มือเมื่อประสบอุบัติเหตุ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น   ผู้โดยสารจะได้รับการดูแล ค่ารักษาพยาบาล สำหรับความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย ดังนี้
1. ค่าสินไหมทดแทน กรณีทุพพลภาพชั่วคราว และเสียชีวิต  ในวงเงิน ไม่เกิน 300,000 บาท
2. ค่าสินไหมทดแทน กรณีหยุดงาน 1,000 บาทต่อสัปดาห์ (ดูจากใบรับรองแพทย์ลงความเห็นว่าให้พักรักษาตัวเป็นเวลากี่วัน)
**กรณีที่เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลกรุงเทพจุรีเวช จังหวัดร้อยเอ็ดท่านไม่ต้องสำรองจ่าย
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นคือ  
- ใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานการแจ้งหนี้ของโรงพยาบาล
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- บัตรโดยสารรถ
- กรณีเสียชีวิต ต้องมีสำเนาใบมรณบัตร
การซื้อตั๋ว
เมื่อซื้อตั๋วแล้วต้องการขึ้นรถระหว่างทาง เช่น ซื้อตั๋วที่กรุงเทพฯ(หมอชิต2) แต่ต้องการขึ้นรถที่รังสิต หรือสระบุรี ท่านสามารถแจ้งต่อพนักงานจำหน่ายตั๋วได้ (รถไม่ได้เข้าทุกเที่ยว)
เวลาทำการ
- กรุงเทพ (หมอชิต 2) ตั้งแต่เวลา 04.30 -22.40 น. ช่องจำหน่ายตั๋วที่ 21,22,36,37
- กรุงเทพ (ซ.วิภาวดี 17) ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 22.00 น.
- ร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 22.00 น.
- มุกดาหาร ตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 20.30 น.
- มหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 22.30
การจองที่นั่งทางโทรศัพท์ (กรุงเทพฯ)
เพื่อความสะดวกทางบริษัทให้บริการท่านผู้โดยสารที่ไม่สามารถมาซื้อตั๋วโดยสารด้วยตัวเอง โดยท่านผู้โดยสารสามารถจองที่นั่งได้ล่วงหน้า 7 วัน ทางหมายเลขโทรศัพท์ดังนี้ คือ
กรุงเทพฯ          02-936-3690 (ตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 21.00 น.)
ทั้งนี้ ท่านจะต้องได้รับการยืนยันจากพนักงานจำหน่ายตั๋ว และ ท่านจะต้องติดต่อรับตั๋วโดยสารที่ เคาน์เตอร์ สถานีขนส่ง และ จุดจำหน่ายตั๋วอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
 การจองที่นั่งทางโทรศัพท์ (ร้อยเอ็ด , มุกดาหาร)
ท่านผู้โดยสารสามารถจองที่นั่งได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ดังนี้ คือ
ร้อยเอ็ด              043 – 514569
-  มุกดาหาร            042 – 615427
ทั้งนี้ ท่านจะต้องได้รับการยืนยันจากพนักงานจำหน่ายตั๋ว และ ท่านจะต้องติดต่อรับตั๋วโดยสารที่ เคาน์เตอร์ สถานีขนส่ง ไม่เกินเวลา 18.00 น.
การซื้อตั๋วล่วงหน้า
ท่านสามารถซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้า 30 วันก่อนวันเดินทาง ที่กรุงเทพ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และมหาสารคาม โดยที่กรุงเทพสามารถซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่
- หมอชิต2 ช่องจำหน่ายตั๋วที่ 21,22,36,37 ตั้งแต่เวลา 10.00 -16.00 น.
- สำนักงานใหญ่ ซอยวิภาวดี 17 ตั้งแต่เวลา 07.30 – 21.00 น.
- ร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 22.00 น.
- มุกดาหาร ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 20.30 น.
- มหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 22.30



โปรโมชั่น
บริษัทได้จัดทำบัตรสมาชิกให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังจุดจอดใหญ่ๆที่มีจุดจำหน่ายตั๋วระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ โดยสะสมแต้มเพื่อแลกส่วนลดหรือแลกตั๋วฟรีได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
  • สามารถสะสมคะแนน 1 บาท = 1 คะแนน
  • สะสมครบ 1,000 คะแนน แลกส่วนลดได้ 50 บาท
  • สะสมครบ 10 เท่าของราคาบัตร แลกได้ 1 ที่นั่ง เช่น 376 บาท ใช้คะแนน 3,760 คะแนน
  • สามารถแลกได้ทุกราคาตั๋ว
  • ต่อบัตรก่อนหมดอายุ คะแนนสะสมยังคงอยู่ในบัตรใหม่
  • บัตรสมาชิกไม่สามารถใช้ในวัน เวลาเดินทางเดียวกันได้
  • บัตรราคา 50 บาท/ใบ
  • บัตรหายหรือต่อใหม่ ราคา 50 บาท/ใบ
  • บัตรมีอายุ 1 ปี
  • บัตรสมาชิกใช้เฉพาะเจ้าของบัตร
  • ท่านผู้โดยสารที่แลกแต้ม 1,000 แต้ม ได้ส่วนลด 50 บาท เท่ากับ ลด 5%
  • ท่านผู้โดยสารที่แลกบัตรฟรี เท่ากับ ลด 10 %
  • แต้มที่สะสมจะได้ทุกครั้งที่จ่ายเงินซื้อตั๋วออนไลน์  ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ใด เช่น โคราช สระบุรี   และใช้ได้กับรถทุกมาตรฐาน
  • นอกจากนั้นท่านยังมีสิทธิพิเศษในการจองตั๋ว ช่วงเทศกาล และช่วงปกติได้ก่อนใคร   คำเตือน ! !  อย่าให้บัตรหมดอายุ เพราะคะแนนที่สะสมไว้ จะหมดอายุพร้อมบัตร
  • จองตั๋วทางโทรศัพท์ ล่วงหน้าได้ 30 วัน
  • กรณีที่จุดจำหน่ายตั๋วยังไม่ได้ใช้ระบบออนไลน์ ท่านสามารถซื้อตั๋วไป-กลับลด 10% ใช้ได้ภายใน 30 วัน
  • (กรณีสะสมตั๋วเลิกใช้แล้ว)
การคืนตั๋ว
ท่านสามารถใช้สิทธิ์การคืนตั๋วโดยสารได้ โดยนำตั๋วโดยสารมาติดต่อที่หน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วก่อนรถออก 2 ชั่วโมง โดยเสียค่าธรรมเนียมการคืนตั๋วตามระเบียบบริษัทฯ 10% จากราคาตั๋วโดยสาร
การเลื่อนตั๋ว
ท่านสามารถใช้สิทธ์การเลื่อนตั๋วโดยสาร หรือ เลื่อนการเดินทางได้ 1 ครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องก่อนรถออก 2 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ต้องเดินทางภายใน 30 วันนับจากวันเลื่อนตั๋วโดยสาร ผู้โดยสารที่มาไม่ทันรถออกทางบริษัทจะถือว่าท่านสละสิทธิ์และไม่สามารถนำตั๋วโดยสารมาขึ้นรถได้อีก
อนึ่ง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทางบริษัทเปิดช่องทางการเลื่อนตั๋วโดยสาร โดยท่านจะต้องส่งสำเนาตั๋วพร้อมระบุ วัน , เวลา , รอบการเดินทาง , หมายเลขโทรศัพท์ แล้วแฟ็กซ์มาที่โทรศัพท์หมายเลข 02-9363689
สัมภาระ
สัมภาระที่ติดตัวระหว่างการเดินทางนำไปได้ท่านละ 2 ชิ้น โดยมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 20 กิโลกรัม หากสัมภาระมีขนาดใหญ่ หรือจำนวนเกินกว่าที่กำหนด บริษัทจำเป็นต้องเก็บค่าธรรมเนียม เนื่องจากใต้ท้องรถมีเนื้อที่จัดเก็บสัมภาระจำกัด สัมภาระที่มีค่าให้นำติดตัวไว้ ในกรณีสัมภาระฝากไว้ใต้ท้องรถสูญหายหรือเสียหาย ทางบริษัทจะชดใช้ให้ตามส่วนรวมแล้วไม่เกิน 500 บาท
บริการระหว่างเดินทาง
บริการน้ำดื่ม ของว่าง อาหาร และผ้าเย็น
จอดให้ผู้โดยสารพักรับประทานอาหาร และทำภารกิจ 20 นาที ที่ จ.นครราชสีมา
  • กรณีรถ ม4 ก รอบ 22.10 32 ที่นั่ง ม. 4 VIP. ( คาดชมพู ) ร้อยเอ็ด
  • จะไม่จอดทานข้าวที่นครราชสีมา
รถจอดให้ลงตามจุดจอดที่ทางขนส่งกำหนดจุดจอดให้ โดยเฉพาะรถวิ่งเข้ากรุงเทพฯจะจอดที่รังสิต ก่อนเข้าสถานีหมอชิตเป็นจุดสุดท้าย






วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

ความหมายตามสีของดอกไม้




"ดอกกุหลาบสีแดง" 

                 ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม ถ้ามีใครให้ดอกกุหลาบสีแดง รู้ไว้เลย นะว่าเค้าคนนั้น มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง  มั่นคง และแน่นนปึก เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ



"ดอกกุหลาบสีขาว"

                      เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิด เลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า 


        

           "ดอกกุหลาบสีชมพู"    

เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้ง เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง


"ดอกกุหลาบสีส้ม" 

สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยังบ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย


"ดอกกุหลาบสีเหลือง"

เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และยังสื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ด้วย หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน


"ดอกกุหลาบสีฟ้า" 

เชื่อว่าเป็นดอกไม้ แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงาม และมั่นคงตลอดกาล


"ดอกกุหลาบสีม่วง" 

บางคนคงคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายนึง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข กุหลาบสีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิต การงานได้อีกด้วย


"ดอกกุหลาบสีดำ"

ความหมายของกุหลาบดำ แต่อาจจะลืมไปแล้ว จนมาถึงวันนี้ได้รื้อฟื้นความหมายอีกครั้ง หลายคนคงให้สีดำแทนความเสียใจ โศกเศร้า  แต่ความหมายของกุหลาบสีดำว่าแท้จริงแล้ว ความหมายที่ลึกล้ำ เจ้ากุหลาบดำ นั่นคือ..นิรันดร์ ดังนั้นดอกกุหลาบดำที่หมายถึงรักนิรันดร์ และมันไม่เคยมีจริง

"ดอกเบญจมาศสีแดง" 

เป็นดอกไม้แห่งความรัก นิยมมอบดอกเบญจมาศสีแดง เพื่อแสดงถึงความรักใคร่ชอบพอ

"ดอกเบญจมาศสีเหลือง" 

เป็นดอกไม้แห่งความโชคดี รักนิดหน่อย นิยมมอบดอกเบญจมาศเหลืองแก่ผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนรู้จักกันเมื่อไปเยี่ยมเยียนหลังจากไม่ได้พบกันมานาน หรือเพิ่งไปมาหาสู่บ้านเขาเป็นคราวแรก (แสดงถึงรักที่บางเบา อ่อนไหวง่าย)

"ดอกเบญจมาศสีขาว"  

ถือเป็นดอกไม้สูงศักดิ์ และทรงเกียรติ เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ สามารถมอบดอกเบญจมาศสีขาวให้แก่ผู้ใดก็ได้ เพื่อแสดงความซื่อสัตย์ภักดี ไม่จำกัดว่าผู้รับต้องเป็นเพศตรงข้ามเท่านั้น

"ดอกคาร์เนชั่นสีแดง" 

ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรัก ประมาณว่าโปรดเห็นความรักของฉันด้วย ออกแนวออนแบบน่ารักๆ ถ้าคุณอยากให้คนที่แอบชอบดอกคาร์เนชั่นสีแดงก็น่าจะเหมาะนะ

"ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู" 

ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูจะมีความหมายลึกซึ่ง ความหมายของคาร์เนชั่นสีชมพู ก็เหมือนสีหวานๆ ของมันนั้นเอง  ความหมายก็คือ ความรักที่กำลังพลิบาน เป็นสีชมพู อันนี้ก็หวานไม่แพ้สีอื่นเลยนะ

"ดอกคาร์เนชั่นสีลาย" 

ดอกคาร์เนชั่นสีลายนั้น จะมีความหมายถึง ความเป็นเพื่อน ถ้ามีใครให้ดอกคาร์เนชั่นสีลายนั้น ให้คุณคิดไว้เลยว่า เขาไม่ได้สนใจคุณแนวความรัก แต่คงมีความเป็นเพื่อนให้ต่อกัน 

"ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง" 

เป็นสัญลักษณ์ของความดูถูกเหยียดหยาม ความทรนง ถ้าผู้ให้ได้ให้ดอกคาร์เนชั่นสีเหลืองแก่ใครแสดงว่า ผู้ให้นั้นรู้สึกดูหมิ่นเหยียดหยามผู้รับอย่างมาก หรืออีกความหายหนึ่งคือ บอกถึงความรู้สึกงอน อยากให้อีกฝ่ายมาง้อ

"ดอกคาร์เนชั่นสีขาว" 

นิยมใช้ในการแสดงความชื่นชมยินดีตามแต่วาระต่างๆ เช่นการรับปริญญา เป็นต้น หรือสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา อ่อนโยน คุณคือของมีค่าที่น่าทะนุถนอม นอกจากนี้ยังใช้ในการแสดงความขอบคุณอีกด้วย

"ดอกลิลลี่สีชมพู" 

แสดงออกถึงการค้นหาความรักที่ดีที่สุดแล้วพบเจอมัน คือ "ที่สุดของหัวใจที่ฉันตามหา" หรือ "ความอ่อนหวานของเธอช่วยเติมเต็มชีวิตฉัน"เป็นดอกไม้ที่ผสมผสานอารมณ์ของความรักได้ อย่างลงตัว สื่อถึงความรักความจริงใจที่มี ดอกลิลลี่สีชมพูเหมาะสมกับโอกาสที่ ต้องการแสดงออกและสื่อถึงความรู้สึกทั้งหมด ดังเช่นวันแห่งความรัก

"ดอกลิลลี่สีขาว" 

แสดงออกถึงความรักที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน กับดอกกุหลาบสีขาว นอกจากนั้น ดอกลิลลี่สีขาว ยังแสดงออกถึง ความรักแบบอ่อนหวาน จริงใจ และเทิดทูน จึงมักถูกใช้แทน ประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้คุณ" ดอกลิลลี่สีขาวเหมาะสมกับโอกาส ที่ต้องการทำความรู้จัก การแสดงออกถึงความรักอย่างวันวาเลนไทม์ แสดงความยินดีในวันรับปริญญาหรืองานมงคลต่างๆ

"ดอกลิลลี่สีเหลือง" 

แสดงออกถึงความอบอุ่นที่ห่วงใย ของความรักที่มั่นคง "ขอให้คุณปลอดภัยคนดี" เป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ดอกลิลลี่สีเหลืองเหมาะสมกับโอกาสที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย ห่วงหาอาทร ดังเช่น โอกาสที่เราไปเยี่ยมเยือนผู้ป่วย ไปพบหาญาติมิตร

"ดอกลิลลี่สีส้ม" 

แสดงออกถึงความร่าเริง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้ คือ "สุขใจที่ได้ใกล้เธอ" เป็นดอกไม้ที่นำความน่ารักและความสดใสมารวมกันอย่างพอดี ดอกลิลลี่สีส้มเหมาะสมกับโอกาสที่จะมอบให้กับบุคคลที่เรารัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง


ความประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด




                   ผ่านมาเกือบจะ 3 ปีแล้ว  ฉันรู้สึกว่าที่นี่ดูอบอุ่น  เป็นกันเอง และมีการต้อนรับผู้คนที่มาอย่างมีความสุขอยู่เสมอๆ สิ่งที่ฉันได้เห็นจากการมาครั้งแรก คือการสอบสัมภาษณ์มันเป็อะไรที่ตื่นเต้นมากๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นด่านทดสอบของการจะเป็นนิสิตที่นี่เลยก็ว่าได้ การสอบสัมภาษณ์ผ่าไปด้วยดี ที่นี้มีรุ่นพี่และอาจารย์สาขาที่คอยถามและดูแลเป็นอยา่งดี ..

                      วันเปิดเทอมวันแรก  วันปัจฉิมนเทศนักศึกษาใหม่  ฉันตื่นเต้นมากๆๆ จนบอกไม่ถูกเลย  ไม่รู้ว่าคณะตัวเองอยู่ไหน คณะไหนเป็นคณะไหนบ้าง มันเยอะแยะไปหมด ทั้งผู้คนก็มากมาย แต่ดีที่มีรุ่นพี่แต่ล่ะสาขาคอยชี้แนะบอกทาง ส่วนฉันอยู่คณะนิติรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ภาคปกติ พี่ๆต้อนรับดีมาก เป็นกันเองทุกคนเลย และแล้วก็มาถึงวันรับน้อง และนี้ก็เป็นอิกหนึ่งกิจกรรมที่ฉันตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง จะถูกรับน้องแบบไหน มันคงจะสนุกมากๆ และในการรับน้องก็ทำให้ฉันได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่มาจากกันคนละที่ คนละภาค ทั้งภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ แล้วก็สนิทกัน มีอะไรก่ช่วยเหลือกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่สำคัญฉันยังได้เรียนรู้ประสบการณ์แปลกใหม่เพิ่มอีกด้วย ที่นี้มีอะไรๆอีกหลายอย่างที่ฉันจะต้องเจอ และเรียนรู้มันด้วยตัวเอง ..

                    นอกจากนี้การใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยก็เป็นสิ่งที่ฉันประทับใจมากอีกเช่นกัน เพราะฉันมีเพื่อนๆที่น่ารัก เป็นกันเอง เราจึงใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็สนิทกัน เวลาอาจารย์สั่งงานอะไรเพื่อนๆในห้องก็จะคอยช่วยเหลือกันเต็มที่ แม่บ้านและลุงยามก็อารมณ์ดี ยิ้มให้กับนักศึกษาตลอดเวลาพูดคุยเป็นกันเองมากๆ ทำให้นักศึกษารู้สึกดีอยู่ตลอดวาลา ในวันที่ทางมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมอะไรมันทำให้คำว่า "นักศึกษา" มีความหมายมากยิ่งขึ้น มีความสุข สนุกสนาน เฮฮามากในกลุ่มแก๊งเพื่อนๆ เพราะเราจะช่วยกัน และเต็มที่กับงานนั้นมากๆ จนไม่รู้สึกเหนื่อยเลย จึงทำให้ฉันรู้จักเพื่อนต่างสาขาเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เพื่อนที่ต่างคณะกันและเพื่อนต่างห้องร่วมไปถึงรุ่นพี่ด้วย ..

                   แต่พอพูดถึงการเรียนมันก็เหนื่อยบ้างเป็นบางครั้ง  เพราะแต่ละงานที่อาจารย์มอบหมายให้ทำมันเป็นอะไรที่ยากพอสมควร แต่ฉันก่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่ในชีวิตมีเพื่อนที่ดีคอยให้คำปรึกษาตลอดและได้มาเรียนปริญญาตรีที่นี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อนเอ็ด ได้เรียนรู้ชีวิตนอกบ้าน และได้มีโอกาสเป็นนักศึกษาของอาจารย์ดีๆหลายท่านที่เป็นต้นแบบให้ฉันได้ประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่ดีๆ จากที่ฉันไม่ค่อยกล้าแสดงออก ฉันก็เริ่มกล้าคิด กล้าทำอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นกว่าเดิม เพราะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นและได้แก้ไขมันได้ด้วยตัวฉันเอง ..

                    มหาลัยแห่งนี้อาจจะไม่ได้ดูสวยงาม  ไม่เลิศหรูเหมือนกับหมาลัยในเมืองกรุง  แต่สำรับฉันมันคือที่ที่ดีที่สุด สวยงามที่สุด เพราะการศึกษาไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่เรียนหรือสถาบัน มันขึ้นอยูกับตัวบุคคลมากกว่า  อีกอย่างเพราะฉันได้เห็นรุ่นพี่ที่นี้จบออกไปทำงานก็หลายคนเหมือนกัน  มันทำให้ฉันมีแรงฮึ๊ดสู้ มีกำลังใจสู้ต่อ  และอยากจะจบออกไปอย่างราบรื่นเหมือนกับพวกพี่ๆเขา  จึงอยากจะให้นักศึกษารุ่นต่อๆไปคิดและทบทวนสิ่งต่างๆด้วยใจ  ใช้ใจมองอย่าดูแค่ภายนอกที่เห็นเท่านั้น เพราะฉนั้นอยากให้ลองเปิดใจ ลองเข้ามาดู มาศึกษาดูก่อน  แล้วจะรู้ว่าเป็นที่ที่ดี ให้ความรู้ ให้ประสบการณ์ และมีความสุขในการใช้ชีวิตมากๆ อีกแห่งหนึ่ง .. 


ภาพความประทับใจที่ได้เข้ามาอยู่ในรั้วมหาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ^^


               






 


                                       



มิ ต ร ภ า พ .. .


" ที่แสนดี .. อบอุ่นใจ " 



. . > " การเดินทางที่แสนพิเศษ " < . .